การวัดและประเมินผลทางการศึกษา
ความหมายของคำว่า
การประเมินผล (Evaluation) ได้มีผู้ให้ความหมายไว้ ดังนี้
ชวาล แพรัตกุล (2516 : 140) กล่าวว่า
การประเมินผล หมายถึง กระบวนการที่ครูนำทุกๆรายการที่ทราบจากการวัดไปใช้
โดยครูนำผลต่างๆ จากการวัดผลเหล่านั้นมารวม
มาชั่ง มาผสมเพื่อนำไปใช้ในการวินิจฉัย ตีราคาคุณค่าและชี้ขาดลงเป็นผลสรุปว่า เด็กคนนั้นมีคุณภาพสูงหรือต่ำ ควรให้เป็นประเภทสอบได้หรือสอบตก เป็นต้น ซึ่งการประเมินผลที่ดีต้องตั้งอยู่บน รากฐานของการวัดที่ดี
สมหวัง พิริยานุวัฒน์ (2520 : 176)
กล่าวว่า การประเมินผล หมายถึง กระบวนการตัดสินคุณค่าของสิ่งของหรือการกระทำใด ๆ
โดยเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน
ล้วน สายยศ (2527 : 2) กล่าวว่า
การประเมินผล หมายถึง กระบวนการพิจารณาตัดสินที่เป็นระบบ
ครอบคลุมถึงจุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้
อีเบล และฟริสบาย (Ebel and Frisbie1986 : 13)
กล่าวว่า การประเมินผล หมายถึงการตัดสินเกี่ยวกับคุณภาพหรือคุณค่าของสิ่งต่างๆ ซึ่งบางครั้งอาจพิจารณาจากผลที่ได้จากการวัดเท่านั้นแต่ส่วนมากจะตัดสินคุณค่าของสิ่งต่างๆ
โดยพิจารณาจากผลที่ได้จากการวัดด้านต่าง ๆ ประกอบกับหลักฐานด้านอื่น ที่เกี่ยวข้อง และรวมถึงการใช้วิจารณญาณและความรู้สึกนึกคิดของผู้ประเมินมาประกอบในการตัดสินใจด้วย
กรอนลันด์ (Gronlund 1976 : 6) กล่าวว่า การประเมินผล หมายถึง
กระบวนการอย่างมีระบบ (Systematic Process) ที่อธิบายสิ่งที่ต้องการประเมินทั้งในเชิงปริมาณ
และเชิงคุณภาพ โดยประกอบกับการตัดสินคุณค่าให้กับสิ่งนั้น
ซึ่งใช้การเปรียบเทียบกับเกณฑ์ หรือมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง
จากความหมายของการประเมินผล สรุปว่า การประเมินผล คือ
กระบวนการในการตัดสินใของผู้ประเมิน เพื่อจะตีค่า ตีราคา
หรือให้คุณค่าแก่คุณลักษณะของคน สัตว์ สิ่งของ และสิ่งที่เป็นนามธรรม
โดยข้อมูลที่ได้จากการวัดผล เป็นส่วนประกอบในการตัดสิน เปรียบเทียบกับเกณฑ์อย่างใดอย่างหนึ่งอย่างมีหลักเกณฑ์และอาศัยการตัดสินที่มีคุณธรรม
การประเมินผล EVALUATION
ความเป็นมาและคำชี้แจงเหตุผล
กรอบการประเมินผลจะวัดผลการดำเนินงานของกิจกรรมในสี่ส่วนที่ระบุไว้ในข้อตกลงคือ a. การบริหารโครงการ (รวมทั้งการจัดการด้านงบประมาณ) b. การบรรลุขีดขั้นความสำเร็จและเป้าหมาย c. ผลกระทบของโครงการ
และ d. ผลการดำเนินงานเปรียบเทียบกับตัวชี้วัดความสำเร็จที่กำหนดไว้
กรอบการติดตามการดำเนินงานและการประเมินผล
( Monitoring and
Evaluation Framework )
การติดตามการดำเนินงานเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายและตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการ
ทำได้ด้วยการนำข้อมูลในรูปแบบต่างๆมาใช้พิจารณารวมทั้ง ผลการสำรวจออนไลน์
การประเมินผลก่อนและหลังการจัดฝึกอบรม
ข้อมูลป้อนกลับเชิงคุณภาพหรือสะท้อนความคิดเห็น สาระสำคัญและโอกาสที่ระบุได้ในช่วงระยะเวลาของโครงการ
การสัมภาษณ์ผู้เข้าร่วม เครื่องมือ/เอกสารที่ผลิตขึ้น
ระดับการรับรู้ที่เพิ่มขึ้นด้านการค้ามนุษย์และด้านการบริการที่ช่วยป้องกัน
รวมทั้งประเด็นอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน เช่น
ข้อมูลด้านการสรรหาเจ้าหน้าที่โครงการ แผนงานที่จัดทำไว้แล้ว
และบันทึกการประชุมของคณะกรรมการวางระเบียบวาระการประชุมและวิธีการดำเนินงาน
วิธีการที่นำมาใช้ในกรอบการประเมินผลงานนี้เป็นวิธีการประเมินผลที่ตั้งอยู่บนหลักการการมอบอำนาจการตัดสินใจแก่กลุ่มสมาชิกในชุมชน
1 การประเมินผลโดยวิธีนี้มีหลักการสำคัญซึ่งผลักดันทั้งการทำการประเมินผลและผลงานของโครงการทั้งหมด
หลักการสำคัญนี้ประกอบด้วย
-
การเป็นเจ้าของโครงการขององค์กรชุมชน
-
การมีส่วนร่วม
-
ความยุติธรรมทางสังคม
-
องค์ความรู้ในชุมชน
-
การสร้างความพร้อม
-
การตรวจสอบได้
นอกจากนี้วิธีการประเมินผลที่นำมาใช้จะเป็นในรูปแบบการปรึกษาหารือกันและให้ความสำคัญต่อความรู้และประสบการณ์ที่พิเศษเฉพาะเจาะจงของเจ้าหน้าที่โครงการและผู้เข้าร่วมโครงการนี้
บทบาทของเราในฐานะผู้ให้คำปรึกษาด้านการติดตามการดำเนินงานและการประเมินผล
มีหน้าที่สนับสนุนการพัฒนาและการตัดสินใจภายในกลุ่มผู้เข้าร่วมโครงการ
โดยการส่งเสริมการใช้ข้อมูลป้อนกลับที่เป็นประโยชน์
ให้ผู้เข้าร่วมมีโอกาสสะท้อนถึงผลลัพธ์และปัญหาของโครงการ
และสร้างบรรยากาศที่ส่งเสริมการวิพากษ์วิจารณ์และสนับสนุนการเรียนรู้
การกำหนดระดับคุณภาพผลการเรียนรู้
ประกอบด้วยระดับความเข้าใจ 5 ระดับ ดังนี้
1. Pre-structural (ระดับโครงสร้างขั้นพื้นฐาน)
คือ ในระดับนี้ผู้เรียนจะยังคงไม่เข้าใจจุดมุ่งหมายที่แท้จริง และยังคงใช้วิธีการง่ายๆในการทำความเข้าใจสาระเนื้อหา
เช่น ผู้เรียนรับทราบแต่ยังคงพลาดประเด็นที่สำคัญ
2. Uni-structural (ระดับมุมมองเดียว)
คือ การตอบสนองของผู้เรียนจะมุ่งไปที่มุมมองที่เกี่ยวข้องเพียงมุมมองเดียว เช่น
สามารถระบุชื่อได้ จำได้ และทำตามคำสั่งง่ายๆได้
3. Multi-structural (ระดับหลายมุมมอง)
คือ
การตอบสนองของผู้เรียนจะมุ่งเน้นไปที่หลายๆมุมมองโดยการปฏิบัติต่อผู้เรียนจะเป็นไปอย่างอิสระ
เช่น สามารถอธิบายได้ ยกตัวอย่างได้ หรืออาจเชื่อมโยงได้
4. Relational (ระดับเห็นความสัมพันธ์)
คือ การบูรณาการความสัมพันธ์ต่างๆเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน เช่น
ผู้เรียนสามารถวิเคราะห์ เปรียบเทียบ ระบุความแตกต่าง แสดงความสัมพันธ์
อธิบายเชิงเหตุผล และ/หรือนำไปใช้ได้
5. Extended abstract (ระดับขยายนามธรรม)
คือ จากขั้นบูรณาการเชื่อมโยงความสัมพันธ์เข้าด้วยกัน
จากนั้นจึงมาสู่การสร้างเป็นแนวคิดนามธรรมขั้นสูง หรือการสร้างทฤษฎีใหม่ เช่น
การสร้างสรรค์ สะท้อนแนวคิด สร้างทฤษฎีใหม่ เป็นต้น
การนำหลักสูตรสู่การปฏิบัติ
กรอบทิศทางในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาหรือกล่าวโดยความเข้าใจทั่วไปคือ
กรอบทิศทางในการจัดหลักสูตรของโรงเรียน ซึ่งหมายถึง
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
ที่กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้ทุกโรงเรียนทั่วประเทศในปีการศึกษา 2553
หลักสูตรนี้ เป็นหลักสูตรที่ใช้แนวคิดหลักสูตรอิงมาตรฐาน
เป็นหลักสูตรที่กำหนดมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
ดังนั้นการดำเนินการทุกขั้นตอนของการนำหลักสูตรไปใช้จะต้องยึดหลักการบริหารจัดการที่อิงมาตรฐาน
การวัดและประเมินผลต้องสะท้อนมาตรฐาน การจัดการเรียนรู้โดยมาตรฐานเป็นเป้าหมาย
การจัดการเรียนรู้เป็นกระบวนการที่สำคัญในการนำหลักสูตรสู่การปฏิบัติเพื่อการพัฒนาให้ผู้เรียนมีความรู้
ความสามารถตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด เมื่อผู้เรียนได้รับการพัฒนาและมีคุณภาพตามตัวชีวัดทั้งหมด
ในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้แล้ว ผู้เรียนย่อมเกิดสมรรถนะสำคัญตามหลักสูตรที่กำหนด 5
ประการ คือ
1.
ความสามารถในการสื่อสาร
2.
ความสามารถในการคิด
3.
ความสามารถในการแก้ปัญหา
4.
ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
5.
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
ความสามารถหรือสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนทั้ง 5 ประการ
ได้ถูกกำหนดเป็นลักษณะของสิ่งที่ผู้เรียนพึงรู้และปฎิบัติได้ในแต่ละตัวชี้วัดในกลุ่มสาระต่าง
ๆ ของหลักสูตรแกนกลางฯ แล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น